วันอังคารที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

"วิชา"แถลงปิดคดีโกงข้าว ย้ำจีทูจีลวงโลก ลวงรัฐ หลอกประชาชน ยันสมคบ บ.เอกชน ขณะที่"บุญทรง-ภูมิ"โต้ไม่ได้โกง ยันทำหน้าที่ถูกต้อง

"วิชา"แถลงปิดคดีโกงข้าว ย้ำจีทูจีลวงโลก ลวงรัฐ หลอกประชาชน ยันสมคบ บ.เอกชน ขณะที่"บุญทรง-ภูมิ"โต้ไม่ได้โกง ยันทำหน้าที่ถูกต้อง - See more at:
http://www.bangkokbiznews.com/news/detail/645866#sthash.npvjSnGV.dpuf

'วิชา'แถลงปิดคดีขายข้าวจีทูจีลวงโลก 'บุญทรง-ภูมิ'โต้ไม่โกง
โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
วันที่ 07 พฤษภาคม 2558, 13:45

http://goo.gl/46Xoom
พรเพชร วิชิตชลชัย,วิชา มหาคุณ,บุญทรง เตริยาภิรมย์,ภูมิ สาระผล

จากนั้นเข้าสู่วาระการแถลงปิดคดีถอดถอน นายภูมิ สาระผล อดีตรมช.พาณิชย์ นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรมว.พาณิชย์ และนายมนัส สร้อยพลอย อดีตอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ ออกจากตำแหน่ง ตามมาตรา6วรรคสอง ของรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว ประกอบมาตรา56(1) และมาตรา58ของพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย ป.ป.ช.

โดยเริ่มจาก นายวิชา มหาคุณ กรรมการป.ป.ช. แถลงปิดสำนวนว่า กระบวนการระบายข้าวแบบจีทูจีไม่มีอยู่จริง แต่เป็นการทำตามกลอุบาย อย่างซับซ้อนโดยได้รับความร่วมมือจากข้าราชการประจำ เอกชน ทำงานเป็นขบวนการ สร้างความเสียหายให้ประเทศอย่างร้ายแรง ซึ่งนายมนัสร่วมกับ นายภูมิ นายบุญทรงได้ละเว้น ไม่ตรวจสอบข้อเท็จจริงว่า บริษัทกวางตุ้ง และบริษัท ไห่หนาน เป็นตัวแทนที่ได้รับมอบอำนาจจากรัฐบาลจีนให้มาทำสัญญาซื้อขายข้าวแบบจีทูจีจริงหรือไม่ จากข้อเท็จจริงไม่พบว่า ทั้งสองบริษัทเป็นตัวแทนที่ได้รับมอบอำนาจจากรัฐบาลจีน ชื่อของบริษัทบ่งบอกว่า เป็นบริษัทค้าขายเครื่องเขียนและกีฬา ไม่ใช่บริษัทค้าข้าว อีกทั้งผู้แทนทั้ง2บริษัท เข้ามายังประเทศไทยโดยใช้วีซ่านักท่องเที่ยว ถือว่าไม่สง่าผ่าเผย ไม่สมฐานะในฐานะผู้แทนการค้าระหว่างประเทศ นอกจากนี้ยังพบว่า คนไทยที่เป็นตัวแทนให้บริษัททั้งสองแห่ง มีสถานะการเงินไม่น่าเชื่อถือ เป็นแค่พนักงานส่งเอกสาร และคนขับรถของบริษัทสยามอินดิก้าเท่านั้น แต่มาทำสัญญาเป็นหมื่นล้าน

นายวิชา กล่าวต่อว่า นอกจากนี้เงินที่นำมาชำระค่าข้าว เป็นเงินที่มาจากผู้ค้าข้าวภายในประเทศไม่ใช่จากต่างประเทศ การอ้างว่าค้าข้าวแบบรัฐต่อรัฐ จึงเป็นกลอุบายของผู้ถูกกล่าวหาที่สร้างขึ้นมาเพื่อสมคบคิดและอุปโลกน์ ให้บริษัทเข้ามาซื้อขายแบบรัฐต่อรัฐ เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจสอบมีการแบ่งหน้าที่กันทำโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย เร่งรีบทำสัญญาซื้อขาย และเร่งรีบให้มีการประชุมคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) ภายหลังจากที่มีการแต่งตั้งคณะกรรมการชุดดังกล่าวเพียง2วัน ถือเป็นจีทูจีแบบลวงโลก ลวงรัฐ และหลอกลวงประชาชนทั้งประเทศ ตอกย้ำซ้ำเติมความเสียหายต่องบประมาณแผ่นดิน โดยอาศัยกลอุบายเล่ห์กะเท่ เป็นกระบวนการร่วมมือกัน มีการวางแผนเป็นขั้นตอน และมีการเปลี่ยนวิธีการชำระเงินจากการเปิดแอลซี เป็นเอ็กซ์แวร์เฮ้าท์

"ผมขอยืนยันว่ากระบวนการทั้งหมดนี้ ป.ป.ช. ไม่ได้ใช้ความรู้สึกส่วนตัวแต่อย่างใด และไม่ใช้ข้อมูลตกแต่ง แต่เป็นข้อมูลความจริงที่ได้มาจากการไต่สวน และข้อกล่าวหาที่ว่าไม่ได้เปิดให้บริษัทเอกชนให้ข้อเท็จจริงนั้น ก็ไม่เป็นความจริง ป.ป.ช.ได้มีการเปิดให้เข้ามาให้ข้อเท็จจริง ทั้งหมดจะปรากฏอยู่ในสำนวนของ ป.ป.ช.ดังนั้นการถูกกล่าวหาว่าป.ป.ช.มีอคตินั้น ไม่เป็นความจริง เรามีขั้นตอนกระบวนการไต่สวนที่อยู่บนพื้นฐาน และมีการสอบพยานหลักฐานทุกฝ่ายอยู่บนหลักความเป็นธรรมในการพิจารณาทุกขั้นตอน"นายวิชา กล่าว

นายวิชา กล่าวอีกว่า ส่วนที่มีการเปรียบการถอดถอนนายมนัส กับคุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา อดีตผู้ว่าสตง. ว่าเหตุใด ป.ป.ช.จึงไม่ถอดถอนคุณหญิงจารุวรรณ นั้น ป.ป.ช.เห็นว่า นายมนัสเป็นข้าราชการระดับสูง และถูกกล่าวหาร้องเรียนว่ากระทำความผิดทางอาญา ร่วมกับผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง จึงเข้าข่ายมาตรา 66 ของ พ.ร.บ. ป.ป.ช. และเมื่อ ป.ป.ช.มีมติชี้มูลตามมาตรา 56 วรรคหนึ่ง จึงส่งคดีให้ สนช.ถอดถอน ขณะที่กรณีคุณหญิงจารุวรรณ ไม่มีการร้องเรียนว่ากระทำความผิดร่วมกับผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เป็นการร้องตามมาตรา 84เรื่องความผิดทางอาญา และวินัยเมื่อ ป.ป.ช.ไต่สวนก็พบว่าไม่มีความผิดทางอาญา แต่เป็นพฤติกรรมไม่เหมาะสม อีกทั้งตำแหน่งผู้ว่า สตง.ไม่มีกฎหมายใดเอาผิดทางวินัยได้ ที่สำคัญผู้ร้องไม่ได้ยื่นถอดถอนคุณหญิงจารุวรรณ ดังนั้นป.ป.ช.จึงไม่มีอำนาจถอดถอนได้จึงเพียงแจ้งให้ สนช.รับทราบเท่านั้น ยืนยันว่าป.ป.ช.ทำหน้าที่ตามกฎหมาย ทำงานโดยสุจริตไม่อคติ ไม่ได้อาฆาตมาดร้าย หรือมีจิตใจคิดแต่จะเอาผู้กระทำผิดมาลงโทษ ไม่ได้กระทำสองมาตรฐานหรือหลายมาตรฐานมีมาตรฐานเดียวคือทำงานเพื่อแผ่นดิน

(ซ้าย) นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรมว.พาณิชย์  (ขวา) นายภูมิ สาระผล อดีตรมช.พาณิชย์

จากนั้น นายภูมิ สาระผล อดีตรมช.พาณิชย์ ชี้แจงว่า สาเหตุที่ไม่มาตอบข้อซักถามต่อกมธ.ซักถาม เพราะศาลฎีกาฯมีคำสั่งรับคดีทุจริตจีทูจีไว้แล้ว โดยศาลจะพิจารณาคดีนัดแรกวันที่ 29 มิ.ย. ดังนั้นการแถลงใดๆต่อสภาฯย่อมส่งผลกระทบต่อแนวทางการต่อสู้คดีในศาลฎีกาฯ แต่ยืนยันว่า ได้ทำหน้าที่ในฐานะรมช.พาณิชย์ และประธานคณะอนุกรรมการระบายข้าวอย่างถูกต้อง ไม่ได้สมคบหรือแบ่งแยกหน้าที่กับใครตามที่ถูกกล่าวหา แต่ปัญหาสต๊อกข้าวที่ตกค้างจากรัฐบาลเก่าตั้งแต่ปี 48-52 จำนวน 2.1 แสนตัน กระทั่งมาถึงรัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ทำให้ข้าวค้างสต๊อกเริ่มเสื่อมคุณภาพ จึงจำเป็นต้องเร่งระบายเก่า โดยไม่ชักช้ามีการตั้งคณะอนุกรรมการระบายข้าวขึ้นมา เพื่อพิจารณาระบายข้าว ซึ่งคณะอนุกรรมการดังกล่าวนอกจากข้าราชการการเมืองแล้ว ยังมีข้าราชการประจำที่มีประสบการณ์ ความรู้ ความ สามารถ ผ่านการระบายข้าวมาหลายรัฐบาล จึงไม่มีเหตุผลที่ตนจะไม่ให้ความเชื่อถือ

นายภูมิ กล่าวว่า การระบายข้าวแบบจีทูจีถือเป็นยุทธศาสตร์ที่ช่วยระบายข้าวในสต๊อกได้จำนวนมาก ดังนั้นเมื่อกรมการค้าต่างประเทศเสนอเรื่องการซื้อขายข้าวจีทูจีมา จึงเห็นชอบตามกรอบ ไม่ได้ทำนอกเหนือจากที่ราชการเสนอมา ข้าวที่ขายออกไปจากสต๊อกมีราคาเหมาะสม ได้เงินคืนทุกบาททุกสตางค์ ตนทำหน้าที่เป็นประธานอนุกรรมการระบายข้าว 5 เดือน ตั้งแต่เดือนก.ย.54 ถึงเดือนก.พ.55แต่หลังจากเดือนก.พ. 55 เป็นต้นไป ตนได้รับมอบหมายให้ดูแลเฉพาะกรมทรัพย์สินทางปัญญา และกรมส่งเสริมการส่งออก จึงไม่ทราบว่า หลังจากช่วงนั้นมีอะไรเกิดขึ้นกับเรื่องข้าวบ้าง โครงการจำนำข้าวมีผู้เกี่ยวข้องจำนวนมาก มีทั้งผู้ได้และเสียประโยชน์ แม้จะมีการทุจริต ก็ควรดำเนินการกับผู้ทุจริต ไม่ใช่เหมารวมว่า ผู้ปฏิบัติผิดร่วมกันทั้งหมด ควรแยกแยะ หากใช้วิธีเหมารวมความผิด ต่อไปจะหาผู้มาทำงานอย่างทุ่มเทได้ยาก ยืนยันว่า ได้ระบายข้าวด้วยความบริสุทธิ์ใจ แต่มีข้อสังเกตและข้อสงสัยว่า เข้ามาทำหน้าที่ 5 เดือน มีรัฐวิสาหกิจจีนที่เกี่ยวกับตนในการระบายข้าวมีแค่บริษัท กวางตุ้งเท่านั้นแต่ป.ป.ช.ลากตนไปเชื่อมโยงกับบริษัท ไห่หนาน ทั้งที่ไม่มีหลักฐาน แสดงว่า มีเจตนายัดเยียดข้อกล่าวหาให้ตน หากสนช.ลงมติถอดถอน แต่ศาลฎีกาฯยกฟ้อง สนช.จะมีมาตรการใดมาเยียวยาตน จึงสมควรให้ศาลฎีกาฯพิพากษาคดีให้เสร็จก่อน เพื่อให้ความเป็นธรรม

ด้ายนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรมว.พาณิชย์ กล่าวว่า ไม่มีเจตนาหลีกเลี่ยงตอบข้อซักถามกมธ.ซักถาม แต่ที่ไม่มาตอบข้อซักถาม เพราะอาจไปกระทบกับรูปคดีในชั้นศาลฎีกาฯ ยืนยันว่า ปฏิบัติหน้าที่ถูกต้อง ตรงไปมาในช่วงเป็นรมว.พาณิชย์ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็จะยืนยันเช่นนี้ตลอดชีวิต เป็นส.ส.มา 14 ปี ไม่ได้ทุจริต ทรยศประชาชน นายวิชาถนัดใช้วาทกรรมยิ่งกว่าผู้แทนฯในสภามากล่าวหาตน ยืนยันว่า การระบายข้าวไม่สามารถใช่เล่ห์กระเท่หรือสวมรอยใดๆได้ ทุกอย่างมีขั้นตอนการปฏิบัติ และคณะอนุกรรมการระบายข้าวใช้องค์ประกอบชุดเดิมของรัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไร แต่ป.ป.ช.กลับ 2 มาตรฐาน กรณีเดียวกันรัฐบาลชุดก่อนทำถูก แต่ตนกลับทำผิดการกล่าวหาว่าเป็นจีทูจีเก๊นั้น ยืนยันว่า เป็นจีทูจีจริง ทั้งบริษัท ไห่หนาน และบริษัท กวางตุ้ง เป็นรัฐวิสาหกิจจีนจริง ไม่ได้อุปโลกน์หรือสวมรอยแต่ป.ป.ช.ไม่ยอมตรวจสอบพยานฝ่ายผู้ซื้อ ทั้งที่มีหนังสือยืนยันจากบริษัท กวางตุ้งว่า เป็นรัฐวิสาหกิจของจีน แต่ป.ป.ช.กลับตัดทิ้ง เหมือนตั้งธงไว้ล่วงหน้า อยากถามว่า ความเป็นธรรมที่จะสอบพยานให้ตน ไม่มีพื้นที่เหลืออยู่หรือ อยากให้ตนรับโทษทางอาญา ถูกจำคุกตลอดชีวิต ปรับหลายหมื่นล้านบาท เหตุใดผู้ถูกกล่าวหาจึงไม่ได้รับโอกาส ส่วนการใช้วิธีขายข้าวหน้าโกดังสินค้า แทนการเปิดแอลซีนั้น เพราะรัฐบาลไม่ได้ต้องรับภาระเรื่องการปรับปรุงคุณภาพข้าว การขนส่ง ค่าธรรมเนียมต่างๆ เป็นการผลักภาระให้อยู่กับผู้ซื้อ ไม่ได้เปิดช่องให้เกิดการทุจริต และยังปิดช่องทางการทุจริตด้วย

นายบุญทรง กล่าวว่า ป.ป.ช.พูดถึงคุณธรรม จริยธรรมตลอด แต่เป็นการอ้างวาทกรรมที่ประดิษฐถ้อยคำสวยหรูยกภาพตัวเองเป็นวีรบุรุษปราบทุจริต ซึ่งขัดแย้งจากความเป็นจริง เลือกถอดถอนนายมนัส แต่ไม่ถอดถอนคุณหญิงจารุวรรณ เป็นการทำสองมาตรฐาน ตอกย้ำว่า รัฐบาลยิ่งลักษณ์ชั่วร้าย ทำลายผลประโยชน์ประเทศ ขอเรียกสิ่งที่ป.ป.ช.ทำว่า“ยุติธรรมอำพราง”ไม่ไต่สวนพยานที่ตนร้องขอ แต่เลือกไต่สวนพยานที่ไม่เป็นธรรม เบี่ยงเบนชักจูงพยานเพื่อซักทอดทางการเมือง อยากให้สนช.รอศาลฎีกาฯพิจารณาคดีให้เสร็จก่อนเพื่อความเป็นธรรม

“อยากบอกว่า ชีวิตทุกคนต้องการความเป็นธรรม แต่ป.ป.ช.มีความประสงค์ให้ประชาชนตราหน้าพวกตนว่า ทุจริต ให้อับอาย อัปยศต่อวงศ์ตระกูล การกล่าวหาเช่นนี้คงไม่ได้อยู่ที่การเพิกถอนสิทธิการเมือง แต่แสดงออกถึงความมีอคติ เกลียดชังอย่างออกนอกหน้า เคียดแค้นตนมาก่อน จึงประสงค์ประจานตน ขอให้สนช.ใช้ดุลยพินิจว่า จะอยู่บนฝ่ายที่ยึดหลักความยุติธรรมคือ ต้องมีคำพิพากษาถึงที่สุด หรือเลือกอยู่บนฝ่ายยุติธรรมอำพรางผมไม่เคยลวงโลก ลวงรัฐ หลอกลวงประชาชน ขอปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา“นายบุญทรง กล่าว

หลังจากที่ทั้งสองฝ่ายแถลงปิดคดีเสร็จแล้ว นายพรเพชร ได้นัดประชุมเพื่อลงมติถอดถอนในวันที่8พ.ค.

Tags : พรเพชร วิชิตชลชัย,วิชา มหาคุณ,บุญทรง เตริยาภิรมย์,ภูมิ สาระผล

ด่วน! สนช.ลงมติถอดถอน 'บุญทรง-ภูมิ-มนัส' ถูกเว้นวรรค5ปี
โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ วันที่ 08 พฤษภาคม 2558, 12:45
- See more at: http://www.bangkokbiznews.com/news/detail/645946#sthash.LW1myj3E.dpuf

"วิชา"แถลงปิดคดีโกงข้าว ย้ำจีทูจีลวงโลก ลวงรัฐ หลอกประชาชน ยันสมคบ บ.เอกชน
ขณะที่"บุญทรง-ภูมิ"โต้ไม่ได้โกง ยันทำหน้าที่ถูกต้อง

http://goo.gl/46Xoom

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น